หลังจากที่ต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรจากนานาชาติ กรณีรุกรานประเทศยูเครน รัสเซียกำลังพิจารณาว่า รัสเซียรับชำระค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ ด้วย​ บิทคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC จากประเทศที่เป็นมิตร เช่น ประเทศจีน และประเทศตุรกี

วันที่ 25 มีนาคม 2565 นายปาเวล ซาวาลนี (Pavel Zavalny) ประธานคณะกรรมการด้านพลังงานของรัสเซีย ระบุว่า เมื่อพูดถึงประเทศที่ “เป็นมิตร” เช่น ประเทศจีน หรือประเทศตุรกี รัสเซียยินดีที่จะเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึง สกุลเงินของประเทศของผู้ซื้อ และรวมถึงบิทคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC

หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า จะขายก๊าซให้กับประเทศที่ “ไม่เป็นมิตร” เป็นเงินรูเบิลเท่านั้น จนทำให้ราคาน้ำมันดิบยุโรปพุ่งขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลว่า จะเกิดปัญหาพลังงานขาดแคลนในยุโรป

โดยนายซาวาลนี ยังระบุว่า รัสเซียได้เสนอให้จีนเปลี่ยนมาชำระเงินด้วยสกุลเงินของทั้ง 2 ประเทศอย่าง รูเบิลและหยวน มาเป็นเวลานานแล้ว โดยสำหรับตุรกีสามารถจ่ายด้วยลีร่าและรูเบิลได้

นอกจากนี้ นายซาวานี ยังย้ำคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน โดยระบุว่า หากประเทศไม่เป็นมิตรต้องการซื้อพลังงานจากรัสเซียจะต้องจ่ายเป็นสกุลเงินแข็ง (hard currency) หรือจ่ายตามที่เราสะดวก ซึ่งก็คือสกุลเงินประจำชาติ หรือรูเบิลนั่นเอง

Share This :

แชร์หน้า “รัสเซียรับชำระค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ ด้วย บิทคอยน์” ให้กับเพื่อน ด้วย URL นี้ https://bit.ly/3tG0HU9 หรือ คลิกที่รูปไอคอนด้านล่าง

The post รัสเซียรับชำระค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ ด้วย บิทคอยน์ appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.

สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภคยุคใหม่ เมื่อ RS เปิดตัวเหรียญ Popcoin สมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม เทคโนโลยี Blockchain สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจทั้งคอมเมิร์ซ คอนเทนต์และบันเทิง สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่

คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโมเดลธุรกิจ Entertainmerce เน้นการดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญระหว่างธุรกิจสื่อ-บันเทิง และธุรกิจคอมเมิร์ซ มาสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดย Popcoin Platform จะเป็นสมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ที่มีเหรียญ Popcoin Token เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนและทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจสื่อ-บันเทิงเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ และนับเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ปูฐานในการสร้างมูลค่าเพิ่มบนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ขณะที่แนวโน้มตลาดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตขึ้นมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ที่สนใจถือสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศมีอยู่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลในกลุ่มโทเคนดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือและมีธุรกิจรองรับ อาร์เอส กรุ๊ป จึงเล็งเห็นถึงโอกาสเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

นอกจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของอาร์เอสแล้ว Popcoin จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแคมเปญการตลาดให้กับแบรนด์และสินค้าต่างๆ ที่สามารถวัดผลได้จริง รวมถึงเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้บริโภคผ่าน Popcoin Platform ด้วย ที่สำคัญยังเปิดรับ Content Creator มาเข้าร่วมใน Popcoin Ecosystem เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกัน

เหรียญ Popcoin ซึ่งเป็นเหรียญที่พัฒนาอยู่บน Bitkub Chain ได้เข้าหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการลิสต์เหรียญบนกระดานเทรด ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ตลาดซื้อขายชั้นนำของประเทศไทยภายในต้นปี 2565

คุณฐณณ ธนกรประภา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ โฟร์ท แอปเปิ้ล กล่าวว่า Popcoin ถูกพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง อาร์เอส กรุ๊ป, โฟร์ท แอปเปิ้ล และ ฟิวเจอร์ คอมเพเทเร่ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร และเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Blockchain มีประสบการณ์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 5 ปี มาร่วมออกแบบ Tokenomic จึงทำให้ Popcoin Platform เป็นสมาร์ท มาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์ม ที่จะเป็นเครื่องมือสร้างโอกาสทางการตลาด และผลประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดใน Popcoin Ecosystem ซึ่งได้แก่

1. บริษัทหรือแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการทำแคมเปญการตลาด
Popcoin จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในด้านการวัดผลทางการตลาด และสามารถใช้สร้างแคมเปญเพื่อเพิ่ม Engagement ทางตรงให้กับผู้บริโภคได้อย่างตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ โดยใช้งบประมาณได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Popcoin จะเป็นเครื่องมือต่อยอดทางการตลาดที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายได้จึงทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือก และไม่รู้สึกถูกยัดเยียดหรือมีส่วนร่วมกับสปอนเซอร์โดยไม่เต็มใจ

2. ผู้บริโภค
Popcoin จะเป็นแรงจูงใจที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ และรับประสบการณ์ใหม่ๆ กับคอนเทนต์ของ แบรนด์ หรือ Content Creator รวมถึงนำมาเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในเครืออาร์เอส ภายใต้ Popcoin Ecosystem

3. ผู้ผลิตคอนเทนต์หรืองานบันเทิง
ซึ่งสร้างคอนเทนต์บันเทิงในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลงานศิลปะ สื่อออนไลน์ ทีวี หรือแม้แต่อีเวนต์ Popcoin จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ Content Creator สามารถนำเสนอ Content ของตัวเองไปยังกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มฐานผู้ติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นอีกช่องทางในการการสร้างรายได้เพิ่มนอกเหนือจากโมเดลธุรกิจแบบเดิมๆ

ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปที่สนใจรับ Popcoin Token สามารถเข้าร่วมแคมเปญ Popster Airdrop ด้วยการเปิดบัญชีผู้ใช้สมัครบน Popcoin Platform โดยผู้สมัครจะได้รับเหรียญ Popcoin Token ฟรี 100 เหรียญ และหากแนะนำเพื่อนมาสมัครต่อจะได้รับเพิ่มอีก 25 เหรียญต่อ 1 บัญชีใหม่

Share This :

แชร์หน้า “RS เปิดตัวเหรียญ Popcoin เตรียมเทรดใน Bitkub Exchange ต้นปี 65 แจกฟรี 100 เหรียญ” ให้กับเพื่อน ด้วย URL นี้ https://bit.ly/3Ftyxza หรือ คลิกที่รูปไอคอนด้านล่าง

The post RS เปิดตัวเหรียญ Popcoin เตรียมเทรดใน Bitkub Exchange ต้นปี 65 แจกฟรี 100 เหรียญ appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.

ต่อไปคนไทยจะช้อปปิ้งด้วย ‘คริปโตฯ’ ในห้างสรรพสินค้าได้ เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จับมือ Bitkub โดย “กลุ่มบิทคับ” มุ่งเดินหน้าขยายความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับพันธมิตรรายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดนี้ Bitkub ได้จับมือกับ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้เตรียมเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นี้

สำหรับงานแถลงข่าวในความร่วมมือในครั้งนี้ ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ระบุเพียงแค่หัวข้อ “BITKUB X The Mall Group Partnership Announcement” ซึ่งเป็นงานแสดงวิสัยทัศน์และความร่วมมือกันทางธุรกิจครั้งสำคัญ โดยมีผู้แถลงข่าวคนสำคัญคือ คุณศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร เดอะมอลล์ กรุ๊ป และ คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

อย่างไรก็ตามมีรายงานจากเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจว่า กลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ปเตรียมประกาศความร่วมมือกับบิทคับ โดยทางเดอะมอลล์จะเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าผ่านการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ภายใต้ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ และห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น เดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มดิสทริค, สยามพารากอน และบลูพอร์ต

แต่ก็ยังไม่แน่นอนว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะมีแค่การรับชำระเงินด้วย cryptocurrency หรือก้าวไปถึงขั้นการออกเป็น “เหรียญ” เหมือนอย่างที่เครือเซ็นทรัล รีเทล กำลังซุ่มทำอยู่หรือไม่ ซึ่งคงจะได้รู้กัน ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นี้

ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่ม Bitkub เพิ่งจะสร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวงการคริปโตเคอร์เรนซี ด้วยการขายหุ้นจำนวนสัดส่วน 51% ในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ให้กับกลุ่มไทยพาณิชย์ ด้วยมูลค่ารวมกว่า 1.78 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น Bitkub ยังได้ร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ด เปิดตัวบัตรชำระเงินมาสเตอร์การ์ดที่รองรับสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเอเชีย ที่ผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ จะสามารถที่จะสมัครบัตรเครดิตและบัตรเดบิต หรือบัตรเติมเงินของมาสเตอร์การ์ด ที่เชื่อมกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถใช้สกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี ได้ทุกที่ที่ต้องการ และมีมาสเตอร์การ์ดรองรับได้ทั่วโลก

กราฟเรียลไทม์ Bitkub Coin (KUB) ล่าสุด วันจันทร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2567 (บาท)

Share This :

แชร์หน้า “เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จับมือ Bitkub ต่อไปคนไทยจะช้อปปิ้งด้วย ‘คริปโตฯ’ ในห้างสรรพสินค้าได้” ให้กับเพื่อน ด้วย URL นี้ https://bit.ly/3CYxntw หรือ คลิกที่รูปไอคอนด้านล่าง

The post เดอะ มอลล์ กรุ๊ป จับมือ Bitkub ต่อไปคนไทยจะช้อปปิ้งด้วย ‘คริปโตฯ’ ในห้างสรรพสินค้าได้ appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.

(เผยแพร่: 25 ก.พ. 2564) หลังจากที่เหรียญ BitCoin และ Cryptocurrency มีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึงมีความผันผวนขึ้นลงค่อนข้างสูง ทางด้าน ก.ล.ต.เตรียมยกระดับคุ้มครองผู้ลงทุนเหรียญ Crypto การกำกับดูแลการซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน โดยเบื้องต้นจะมีการกำหนดคุณสมบัติทั้งด้านการเงินและด้านความรู้ ซึ่งสิ่งที่เป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้เลยคือ ผู้ลงทุนต้องมีรายได้ต่อปี 1 ล้านขึ้นไป ถึงจะลงทุนได้

ล่าสุดทาง ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ได้ออกมาเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องทดสอบความรู้ ของผู้ลงทุนก่อนการให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม

ก.ล.ต.เตรียมยกระดับคุ้มครองผู้ลงทุนเหรียญ Crypto

เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) เป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีความผันผวนสูง การลงทุนจึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจรับความเสี่ยงจากการได้รับผลขาดทุนจากการลงทุนได้ เบื้องต้นได้กำหนดหลักเกณฑ์ของผู้ลงทุนออกมา 2 เป็นด้านคือ

ด้านการเงิน

• มีรายได้ต่อปี ไม่นับรวมกับคู่สมรส ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป หรือ
• มีสินทรัพย์สุทธิ(net worth) ตั้งแต่ 10 ล้านบาท โดยไม่นับรวมมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัยประจำ หรือ
• มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัล (port size) ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

ด้านความรู้

ต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี หรือ มีประสบการณ์ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือ เป็น professional ตามที่สำนักงานกำหนด เช่น CFA, CISA, CAIA หรือ CFP เป็นต้น

ในกรณีผู้ลงทุนที่ไม่เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้น จะไม่สามารถลงทุนใน Cryptocurrency โดยตรงได้ จะต้องผ่านผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (DA Fund manager) เท่านั้น รวมถึงในการเปิดบัญชีใช้บริการใหม่ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องกำหนดจำนวนเงิน ขั้นต่ำในการเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท

อย่างไรก็ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิด โดยจะเปิดให้ผู้สนใจแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: ekarit@sec.or.th และ chawin@sec.or.th จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 ครับ และจะมีการเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ “สำนักงาน กลต.” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564 เวลา 14.00 – 16.00 น. ด้วยเช่นกัน

แชร์หน้านี้ : https://bit.ly/3zmYtsJ

ที่มา: ก.ล.ต.เตรียมยกระดับคุ้มครองนักลงทุนเหรียญ Crypto ต้องมีรายได้ต่อปี 1 ล้านขึ้นไป ถึงจะลงทุนได้ โดย: DroidSans.com

The post ก.ล.ต.เตรียมยกระดับคุ้มครองผู้ลงทุนเหรียญ Crypto ต้องมีรายได้ต่อปี 1 ล้านขึ้นไป ถึงจะลงทุนได้ appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.

(เผยแพร่: 25 ก.พ. 2564) ก.ล.ต.เตรียมเปิดหลักเกณฑ์คุมนักเทรดคริปโต โดยเปิดรับฟังความเห็นร่างหลักเกณฑ์คุณสมบัตินักลงทุน Crypto กำหนดคุณสมบัติด้านการเงิน เช่น มีรายได้ต่อปี (ไม่นับรวมกับคู่สมรส) ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป มีความรู้และประสบการณ์ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ หรือลงทุนในหุ้น-ฟิวเจอร์ ไม่น้อยกว่า 2 ปี เปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท และทำแบบทดสอบได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 80% หากคุณสมบัติไม่ผ่านจะลงทุนโดยตรงไม่ได้ แต่ต้องลงทุนผ่าน “ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” เท่านั้น

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้มีแนวคิดที่จะออกเกณฑ์ในการกำหนดคุณสมบัติผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) เนื่องจากเห็นว่า คริปโทฯ เป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีความผันผวนสูง การลงทุนจึงต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจและความสามารถรับความเสี่ยงจากการได้รับผลขาดทุนจากการลงทุนได้

การกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 และจะจัดเสวนา เพื่อรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ “สำนักงาน กลต.” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ ก.ล.ต.คาดว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นไป โดยประชาชนสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่กับแนวคิดนี้ ซึ่งในเบื้องต้น ก.ล.ต.กำหนดคุณสมบัตินักลงทุนคริปโทฯ ไว้ดังนี้

ก.ล.ต.เตรียมเปิดหลักเกณฑ์คุมนักเทรดคริปโต

(1) คุณสมบัติในด้านฐานะการเงิน ได้แก่

ก.มีรายได้ต่อปี (ไม่นับรวมกับคู่สมรส) ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป หรือ

ข.มีสินทรัพย์สุทธิ (ไม่นับรวมมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัยประจำ) ตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือ

ค.มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัล (port size) ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

(2) คุณสมบัติด้านความรู้

โดยจะต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ หรือมีประสบการณ์ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน เช่น ผู้แนะนำการลงทุน ผู้วางแผนการลงทุน นักวิเคราะห์การลงทุน เป็นต้น หรือเป็นผู้ทดสอบผ่านหลักสูตรด้านการลงทุน CFA, CISA, CAIA, CFP เป็นต้น

ผู้ลงทุนที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด “จะไม่สามารถลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีได้โดยตรง” โดยสามารถลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีได้ผ่านผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจ “ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” (DA Fund manager) เท่านั้น

ทั้งนี้ ในการเปิดบัญชีใช้บริการใหม่ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท

ไม่เพียงแค่คุณสมบัติในด้านฐานะการเงิน และด้านความรู้เท่านั้น แต่เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนมีความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอ ก.ล.ต.จึงเห็นควรกำหนดให้ผู้ลงทุนต้องผ่านการทดสอบความรู้ (knowledge test) ก่อนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดให้มีการทดสอบความรู้ครอบคลุมหัวข้อเรื่องลักษณะ ความเสี่ยง และผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัล และจะสามารถเริ่มให้บริการแก่ผู้ลงทุนได้ต่อเมื่อผู้ลงทุนมีคะแนนการทดสอบความรู้ในแต่ละหัวข้อไม่น้อยกว่า 80%

ขอบเขตการบังคับใช้กฎเกณฑ์ในการกำหนดคุณสมบัติผู้ลงทุนนี้จะไม่นำไปใช้กับคริปโตเคอเรนซี่ที่ผู้ออกมีกลไกการกำหนดมูลค่าไว้กับสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงปลอดภัย รวมถึงส่วนผสมของทรัพย์สินดังกล่าว เช่น สกุลเงิน (fiat currency) พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ เป็นต้น (stable coin)

แชร์หน้านี้ : https://bit.ly/3AcMyyT

ที่มา: ก.ล.ต.เตรียมเปิดหลักเกณฑ์คุมนักเทรดคริปโต รายได้ขั้นต่ำ 1 ล้านต่อปี เคยลงทุนหุ้น-ฟิวเจอร์ 2 ปี โดย: ผู้จัดการออนไลน์

The post ก.ล.ต.เตรียมเปิดหลักเกณฑ์คุมนักเทรดคริปโต รายได้ขั้นต่ำ 1 ล้านต่อปี เคยลงทุนหุ้น-ฟิวเจอร์ 2 ปี appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.

Clip Video สอนและอธิบายว่า บล็อกเชน คืออะไร? สามารถที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจได้อย่างง่ายๆ โดยคุณ Paul Pattarapon พอล ภัทรพล จากรายการ Money Matters

บล็อกเชน คืออะไร?

เบื้องหลังที่ทำให้ “บิตคอยน์” สามารถมายืนเทียบเคียงกับทองคำได้คือเทคโนโลยี “บล็อกเชน” (Blockchain) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำข้อมูลมูลค่าของคุณมาไว้ใน “กล่อง” (Block) และร้อยต่อกล่องทุกกล่องร่วมกันด้วย “โซ่” (Chain) ที่มีการเข้ารหัสที่ชื่อว่า “Cryptography” ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมากๆ

เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลจะถูกส่งกระจายไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีเครือข่าย ข้อมูลมูลค่าที่อยู่ใน “บล็อกเชน” จึงมีความน่าเชื่อถือสูงมาก เพราะคนในเครือข่ายทุกคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเหมือนกันหมด และการที่จะแก้ไขข้อมูลจำเป็นต้องแก้จากคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อยู่ในเครือข่าย

บล็อกเชนทำให้เราสามารถโอนมูลค่ากันได้โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันจากตัวกลางอย่าง ‘ธนาคาร’ อีกต่อไป เนื่องจากมีความปลอดภัยที่สูงกว่า และเป็นอยู่ในการดูแลของคนในเครือข่ายไม่ใช่ขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง

บิทคอยน์ คืออะไร?

“บิทคอยน์” (Bitcoin) นั้น ถูกเรียกขานว่าเป็นเหมือน “ทองคำดิจิทัล” ที่มีคุณสมบัติของตัวกลางในการแลกเปลี่ยน (Medium of Exchange) เหมือนกับทองคำอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น

1. ความเป็นมาตรฐานของทองทุกหน่วยจะมีคุณสมบัติเหมือนกัน
2. สามารถที่จะแบ่งแย่งเป็นหน่วยได้
3. ง่ายต่อการสะดวกในการพกพา
4. ไม่เสื่อมสภาพไว และ
5. การได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุด

แชร์หน้านี้ : https://bit.ly/3AhmpyJ

The post บล็อกเชน คืออะไร? (Clip Video) appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.

Clip Video สอนและอธิบายว่า บิทคอยน์ คืออะไร? สามารถที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจได้อย่างง่ายๆ โดยคุณ Paul Pattarapon พอล ภัทรพล จากรายการ Money Matters

บิทคอยน์ คืออะไร?

“บิทคอยน์” (Bitcoin) นั้น ถูกเรียกขานว่าเป็นเหมือน “ทองคำดิจิทัล” ที่มีคุณสมบัติของตัวกลางในการแลกเปลี่ยน (Medium of Exchange) เหมือนกับทองคำอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น

1. ความเป็นมาตรฐานของทองทุกหน่วยจะมีคุณสมบัติเหมือนกัน
2. สามารถที่จะแบ่งแย่งเป็นหน่วยได้
3. ง่ายต่อการสะดวกในการพกพา
4. ไม่เสื่อมสภาพไว และ
5. การได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุด

บล็อกเชน คืออะไร?

เบื้องหลังที่ทำให้ “บิตคอยน์” สามารถมายืนเทียบเคียงกับทองคำได้คือเทคโนโลยี “บล็อกเชน” (Blockchain) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำข้อมูลมูลค่าของคุณมาไว้ใน “กล่อง” (Block) และร้อยต่อกล่องทุกกล่องร่วมกันด้วย “โซ่” (Chain) ที่มีการเข้ารหัสที่ชื่อว่า “Cryptography” ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมากๆ

เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลจะถูกส่งกระจายไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีเครือข่าย ข้อมูลมูลค่าที่อยู่ใน “บล็อกเชน” จึงมีความน่าเชื่อถือสูงมาก เพราะคนในเครือข่ายทุกคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเหมือนกันหมด และการที่จะแก้ไขข้อมูลจำเป็นต้องแก้จากคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อยู่ในเครือข่าย

บล็อกเชนทำให้เราสามารถโอนมูลค่ากันได้โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันจากตัวกลางอย่าง ‘ธนาคาร’ อีกต่อไป เนื่องจากมีความปลอดภัยที่สูงกว่า และเป็นอยู่ในการดูแลของคนในเครือข่ายไม่ใช่ขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง

แชร์หน้านี้ : https://bit.ly/2VOBo4o

The post บิทคอยน์ คืออะไร? (Clip Video) appeared first on ซื้อขายบิทคอยน์.com.